วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558

ม หั ศ จ ร ร ย์ . . . ภู ส อ ย ด า ว : ลานสนที่สวยที่สุดในประเทศไทย


ภู ส อ ย ด า ว

       เป็นภูเขาที่สูงเป็นอันดับที่ 5 ของประเทศไทย สูงจากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร มีลานสนสามใบอันสวยงามที่สุดในประเทศไทย ยังมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติสูงมาก สภาพอากาศบนยอดเขานั้นก็ยากที่จะขาดเดาได้ว่า ฝนจะตก แดดจะออก หมอกจะลง ลมจะพัด ดาวจะโผล่ ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย ซึ่งกว่าจะไปสัมผัสความเว่อวังอลังการบนนั้นได้ ก็ต้องผ่านด่านสุดมหาโหด ที่ต้องอาศัยความอดทน อยากสูงในการเดินขึ้นเขาที่ความชันไต่ระดับสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ บนระยะทางกว่า 6 กิโลเมตร และเมื่อคุณขึ้นไปเห็นด้วยตาของคุณเอง คุณจะหายเหนื่อยจากการเดินขึ้นเขามาทันที นี้แหละครับผมว่ามันเป็นเสน่ห์ของที่นี้ ทำให้สามารถดึงดูดความสนใจให้กับนักเดินทางอย่างเราๆ ที่จะไปสัมผัสกับความมหัศจรรย์แห่งภูสอยดาว




ก า ร เ ดิ น ท า ง ข อ ง ผ ม


เริ่มต้นเดินทางกลางคืนจากหมอชิต-พิษณุโลก เช้าตรู่-ต่อรถบัส/เมล์รอบแรกไปชาติตระการ(ซื้อเสบียง)-เหมารถสองแถวภู สอยดาว**ทั้งกระบวนการนี้ต้องไปถึงภูสอยดาวไม่เกินบ่าย 2 โมงไม่งั้นจะไม่ได้ขึ้นภู ต้องรอขึ้นอีกทีวันต่อไป เพราะต้องใช้เวลาในการเดินเท้า ประมาณ 6 ชั่วโมง ถ้าเราเดินป่าตอนกลางคืนมันคงไม่ดีแน่ๆ
ขากลับ...ลงจากภูสอยดาว 9 โมงเช้า มาถึงที่ทำการด้านล่าง บ่ายโมง เหมารถจากที่ทำการให้ไปส่งที่ เขาค้อ พักที่ไปรษณีย์เขาค้อ 1 คืนแล้วก็กลับ กทม
ค่ า ใ ช้ จ่ า ย : ผมไปกัน 15 คน หมดคนละ 2,300 บาท(ค่ารถ ค่าอาหาร  ค่าลูกหาบ  ค่าเข้าอุทยาน  ค่าค้างแรม)
ลู ก ห า บ : คิดกิโลละ 30 บาท เรท ปี 2557 จะให้หาบกี่กิโลก็ได้ครับ ลูกหาบมีเยอะ
สิ่ ง ที่ จ ำ เ ป็ น : เสื้อกันฝน ร่ม ไฟฉาย ไฟแช็ค เทียน ไฟล์ชีท เต้นท์ หม้อสนาม จาน ชาม ช้อน รองเท้าเต๊ะ กล้องถ่ายรูป ขาตั้งกล้อง บนนั้นมีห้องน้ำบริการครับ แต่ต้องตักน้ำจากลำธารมาใช้เอง ซึ่งมีถังเตรียมไว้ให้แล้ว
บ น นั้ น ท ำ อ ะ ไ ร บ้ า ง : เดินเล่นบนลานสน ชมดอกไม้ป่า ดอกหญ้า รับลมเย็นๆ เล่นน้ำตกสายทิพย์ ถ่ายรูปคู่กับหลักกิโลเขตแดนไทยลาว ชมทะเลหมอก เล่นน้ำฝน  ถ้าโชคดีก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ตก ได้เห็นดาว
ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลแบบคร่าวๆ แต่เอาจริงๆ รู้แค่นี้ก็สามารถไปพิชิตได้แล้วครับ ไปเที่ยวป่าแบบนี้ไม่ต้องมีอะไรพร้อมไปซะทุกอย่างหรอกครับ ไม่งั้นเราจะไม่ได้สัมผัส และไม่ได้เรียนรู้ที่จะอยู่ธรรมชาติได้อย่างเต็มที่





ภู ส อ ย ด า  ว ใ น เ ว ล า   3   วั น   2   คื น  

 ผมได้เจอการเปลี่ยนแปลงมากมายที่เกิดขึ้นบนนั้น ทำให้ผมไม่อยากจะเชื่อตัวเองเหมือนกันว่า แค่ในเวลา 1 วัน เราสามารถได้เจอทั้ง ฝนตกตอนเช้า หมอกออกตอนสาย ตกบ่ายฝนสาด ตกเย็นได้เห็นพระอาทิตย์ตก พอกลางคืนได้เจอหมู่ดาวนับล้านดวง มันคือความฟินที่หาที่ไหนได้ยากมากในเมืองไทย ไปชมภาพกันเลยครับ
. . .  .ไ ป โ ล ด.....










 ไ ห ล เ อื่ อ ย ๆ : การได้นั่งอยู่นิ่งๆ แล้วมองไปยังสาบหมอกที่กำลังคืบคลาน ไหลเข้ามาเรื่อยๆ ด้วยมวลมหาศาล อดไม่ได้หรอกครับที่จะต้อง เปล่งเสียงออกมาว่า ว้าาาาาาววววว


ชุ่ ม ฉ่ ำ กั บ ส า ย น้ำ ต ก  : น้ำตกสายทิพย์ เป็นน้ำตกที่อยุ่บนลานสนสามใบ แห่งภูสอยดาว เป็นน้ำตกขนาดเล็ก แต่เพราะ มีองค์ประกอบที่ลงตัว ทั้งหิน มอสส์ที่เขียวขนาดนั้น กับสายน้ำ ที่ถ่ายภาพออกมาแล้ว มันดูลงตัวมากๆ เห็นเล็กๆ แบบนี้ เราสามารถเล่นน้ำได้นะครับ ขอบอกว่าน้ำเย็นมากกกกกกก
 






ด า ว ล้ า น ด ว ง  : ใครจะไปเชื่อว่ามาภูสอยดาวจะได้นั่งมองดาวนับล้านดวงจากเต้นที่ตัวเองนอน ค่ำคืนบนนั้นมันเป็นความสุขที่ไม่อาจจะพ้นออกมาได้หมด ถึงเป็นภาพก็ยังไม่สามารถบรรยายบรรยากาศบนนั้นได้อย่างครบถ้วน สุดยอดจริงๆ ครับ





ห น ท า ง สุ ด โ ห ด  : ภูสอยดาวเป็นอีก หนึ่งสถานที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหด เพราะต้องเดินขึ้นเขาที่ระยะทางกว่า 6 กิโลเมตร ซึ่งเป็นทางขึ้นเขาอย่างเดียว และเนินสุดท้ายที่จะวัดใจกันคือเนินมรณะ เป็นเนินที่ชันและสูงมากๆ ถ้าผ่านมาได้ ก็ฟินสุดยอดแล้ววว




  ค ว า ม ท ร ง จ ำ ดี ๆ  : เรื่องราวดีๆ มักจะเกิดขึ้นเมื่อเราหาอะไรไปปรุงแต่งให้มันลงตัว กลมกล่อมยิ่งขึ้น ทำให้เราได้จดจำได้ง่ายขึ้น และมันจะอยู่ในความทรงจำของเราไปอีกนาน

 จบทริป....ขอให้ทุกคนเที่ยวให้สนุกครับ(เที่ยวในแบบของคุณ)
 ที่มา : Kai Sompong Soichampa 
ติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/Koonkai74?fref=ufi

สรวงสวรรค์ที่เราตามหา : นาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง




ส วั ส ดี ค รั บ . . . ก ลั บ ม า พ บ กั น อี ก ค รั้ ง กั บ รี วิ ว ชิ ว ๆ

          แม้ในช่วงฤดูฝนจะไม่ใช่ช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมเที่ยวกันมากนัก หรือเรียกได้ว่าเป็นช่วงโลว์ซีซัน (Low Season) สำหรับการท่องเที่ยว  แต่ก็มีนักท่องเที่ยวหลายกลุ่มที่ชื่นชอบการเที่ยวเที่ยวในช่วงนี้เพราะมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนฤดูกาลอื่น  "นาขั้นปันใด" ก็เป็นอีกสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกันในหน้าฝน วันนี้จึงจะขอพาไปชมความเขียวขจีของทุ่งนาหน้าฝน ซึ่งไม่ใช่ทุ่งนาธรรมดาๆ แต่เป็น “นาขั้นบันได” ซึ่งเป็นภูมิปัญญาในการทำนาบริเวณภูเขาที่มีความลาดชัน เวลาเอ่ยถึงนาขั้นบันใด.....เชื่อว่าหลายคนคงไม่ได้แค่นึกถึงเพียงต้นข้าวสีเขียวขจีที่กำลังเอนตัว พริ้วไหลไปกับสายลม หรือรวงข้าวสีเหลืองที่พร้อมใจกันออกรวงเหลืองอร่าม แต่ทว่านาขั้นบันใดในแต่ละที่นั้นมีเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่รอบตัว ที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลายต่อหลายคนอดใจไม่ได้ที่จะเข้าไปสัมผัส วันนี้เราจะไปสัมผัสกับบรรยากาศนาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง

.......ไปโลด




        น า ขั้ น บั น ไ ด บ้ า น ป่ า บ ง เ บี ย ง  

. . . . .  .ตั้งอยู่ในเขต อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีอาณาเขตติดกับเขตอุทยานแห่งชาติดอยอิทนนท์ เป็นนาขั้นบันไดที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย สวยมากจริงๆ นะครับ เหมือนเราได้อยู่บนสรวงสวรรค์ก็มิปาน ยิ่งช่วงเวลาที่หลังจากฝนหยุดตกแล้ว นี้อย่างฟินเลยคุณจะได้เห็นหมอกที่ลอยฟุ้งออกมาจากพื้นดิน ยอดไม้ ยอดหญ้า ลอยละล่องเต็มนาข้าวไปหมด แต่ถ้าจะให้ฟินกว่านั้นต้องมีแสงอาทิตย์สาดแสงลงมากระทบกับนาข้าวและสายหมอก ด้วย โห นี่มันความมหัศจรรย์ของธรรมชาติชัดๆเลยช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ก็เริ่มตั้งแต่ เริ่มดำนา ไปจนถึงช่วงเกี่ยวข้าวเลยครับ แต่ละช่วงนั้นคุณจะได้เห็นถึงความเป็นแปลงของนาข้าวตั้งแต่ต้นกล้าต้นแรกที่ ถูกปักลงไปในนาข้าว จนเริ่มแตกใบใหม่ แตกกอใหญ่ขึ้นจนเขียวชอุ่มเต็มพื้นที่ในช่วงฤดูฝน แล้วเปลี่ยนเป็นเหลืองทองอร่ามเต็มทุ่งในช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวช่วง ต้นฤดูหนาว ทุกช่วงจะให้อารมและความรู้สึกแตกต่างกันออกไป

       ไ ม่ เ อ า ไ ม่ พู ด ไ ป ดู ภ า พ กั น โ ล ด
  
ที่งานคุณถาพ อิอิ ..เหล่านางแบบ นายแบบ ที่มากับพวกเรา ไม่ใช่ชาวนานะ เห็นหน้าลาวๆ แบบนี้ 55555
 






ได้สัมผัสวีถีชีวิตของชาวบ้านแถวนั้น ในภาพกำลังหาปูนากัน ^^







 
















*** ปล.รีวิวนี้เป็นเพียงแค่รีวิวที่จะรวบรวมภาพที่พวกผมได้เห็นมาเท่านั้น เรื่องการเดินทางหรือรายละเอียดต่าง ผมคงไม่ขอพูดถึง เพราะที่นี้หาข้อมูลได้ง่ายมากๆ ครับ และอีกอย่างพวกผมโบกรถขึ้นไปกันเองครับ เลยไม่อยากเอามารีวิวเท่าไหร่ เด่วรอสักพักค่อยมาเล่าเรื่องราวให้ฟังกันว่า การโบกรถมันดีอย่างไร....

.........แต่จะให้เบอร์ติดต่อกับเจ้าของและสามารถโทรไปสอบถามรายละเอียด ต่างๆ ทั้งเรื่องการจอง การเดินทาง สภาพอากาศ กับพี่เค้าได้เลย รับรองว่าได้ข้อมูล ดีกว่า อ่านจากกระทู้แน่นอน ^^ ตามด้านล่างนี้เลย


บ้านมาฉิโพ พี่วิชัย : 081-0201691
บ้าน คุณทองดี : 080-8478863
บ้าน คุณวัฒ : 080-7946883






ที่มา : Kai Sompong Soichampa
https://www.facebook.com/Koonkai74?fref=ufi

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2558

รีวิว 9 เพจที่นักท่องเที่ยวอย่างคุณไม่ควรพลาด....

สวัสดีครับ.... พบกันอีกแล้วกับ reviewchillchill 

          วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักเพจที่ได้รับการตอบรับจากนักท่อเที่ยว ที่มียอดวิวคนเข้ามาถูกในเพจเป็นหมื่นเป็นแสนคน หากคุณเป็นคนที่ชอบการท่องเที่ยวแล้ว สิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวหลายๆคนมักจะศึกษาหาข้อมูลก่อนออกไปเที่ยวเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และเตรียมตัวก่อนจะลุยกับการเที่ยวให้มันสุดเหวี่ยง ก็คงหนีไม่พ้น "เพจรวมแหล่งท่องเที่ยว" ที่เป็นเหมือนหน้าต่างบานแรกๆ ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับภาพแลบรรยากาศแหล่งท่องเที่ยวที่คุณสนใจ หรือนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่คุณไม่รู้จัก 

          ต้องบอกก่อนเลยว่าเราไม่ได้จัดลำดับความฮิตในการเข้าดู หรือ ยอดวิวแต่อย่างใด เพียงแต่นำเสนอเพจที่น่าสนใจ(ใน facebook) เพื่อที่จะให้คนชอบการท่องเที่ยวแบบคุณได้มีแหล่งข้อมูลที่ดีและมีแรงบันดาล ก่อนออกทริป 
           เราไปดูกันว่ามีเพจไหนบ้าง? แล้วแต่ละเพจมีจุดเด่นตรงไหน?     ไปกันเลยยยยยย




  
       

1.   Thailand Backpackers
(จะเป็นแนวการนำเสนอภาพวิวที่สวยงาม จากการท่องเที่ยว)
ที่มา : https://www.facebook.com/ThailandBackpackers?fref=pb&hc_location=profile_browser

 สุ ด เ ข ต ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ที่ " บ้ า น รั ก ไ ท ย "
ชุ ม ช น ช า ว จี น ยู น า น ที่ น่ า รั ก เ งี ย บ ส ง บ
บ ร ร ย า ก า ศ ที่ นี่ เ ห มื อ น มี เ ค รื่ อ ง ห ยุ ด เ ว ล า




2.    ท่องเที่ยวสะดุดตา Sadoodta 
(จะเป็นภาพการท่องเที่ยวแนววิถีชีวิต ภาพชีวิตประจำวัน แต่ละภาพที่ออกมาดูมีเสน่ห์มากครับ )
ที่มา : https://www.facebook.com/sadoodtafanpage



 

3.   TheTripPacker
(เป็นแนวการรีวิวการท่องเที่ยวจากที่ต่างๆ ซึ่งมาจากแฟนเพจและคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว เพจนี้จะคัดภาพที่ถ่ายได้สวยๆ เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพได้เป็นอย่างดีครับ)
 ที่มา : https://www.facebook.com/thetrippacker?fref=ts

                                                   บอกลาพระอาทิตย์ยามเย็นที่ดอยเสมอดาว

#ดอยเสมอดาว #น่าน : Photo by k.koong
http://www.thetrippacker.com/th/review/ดอยเสมอดาวอุทยานแห่งชาติศรีน่าน/7678

ร่วมแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวเมืองไทยได้ที่ www.thetrippacker.com ('_^)b





 4.  สะพายเป้ เท่ทั่วไทย - ข้อมูลท่องเที่ยวและทริปเดินทาง
(เป็นแนวเพจเพื่อให้ข้อมมูลในแต่ละแหล่งการท่องเที่ยว  มีเว็บไซต์ที่คลิกเข้าไปจะมีข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวละเอียดมากครับ)
ที่มา :https://www.facebook.com/saphipae



5. Neekrung
(ชื่อก็บอกแล้วว่าหนีกรุง เป็นแนวการท่องเที่ยวอีกภาพที่น่าสนใจ เพจนี้เค้าจะมีกิจกรรมดีๆ มามอบให้กับแฟนเพจใครที่สนใจเชิญเข้าไปชมได้ครับ)
ที่มา :  https://www.facebook.com/neekrungmagazine?__mref=message_bubble






6. Unseen Tour Thailand
(Unseen Tour Thailand เป็นอีกหนึ่งเพจที่มีคนเข้ามาชมเยอะมาก เรียกได้ว่าพระเอกของนักท่องเที่ยวเลยที่เดียว โดยภาพที่ลงในเพจจะมาจากแฟนเพจและคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว)




7.   เพื่อนนักสะพายเป้ Backpacker's friend
(ได้ยินแค่ชื่อก็รู้สึกตื่นเต้นกับเพจนี้ เพจนี้เราจะได้พบกับสาวสวยและการเดินทางของเธอ โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบการสะพายเป้เที่ยวในต่างประเทศห้ามพลาดครับ)

              " แบกเป้ อเมริกาใต้ 66 วัน ที่เปลี่ยนชีวิตฉัน ไปตลอดกาล 
ภาค 3 รีวิว ทริป เปรู ที่ไม่ได้มีแค่ มาชูพิกชู ... ตอนที่ 5 Huascaran National Park"




8. TrekkingThai.com (TKT)
(เป็นเพจที่รวมการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ และรีวิวการท่องเที่ยว เช่น รีวิวจากพันทิป)





9.  ท่องเที่ยวไทย  ไปทั่วโลก
(เป็นอีกเพจที่นำเสนอการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ จุดเด่นของเพจนี้คือความหลากหลายของการท่องเที่ยวเหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยครับ)


    โอตารุ เมืองเล็กๆ แต่เสน่ห์ไม่เล็กที่อยู่บนเกาะฮอกไกโด ด้วยเมืองขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองโรแมนติกมาก ที่ใครๆ ก็อยากไป แค่เพียงมีเวลาเหลือนิดหน่อยก็สามารถเดินเที่ยวเล่นไปทั่วเมืองแล้ว แต่ที่ทำสำคัญที่ไม่ควรพลาดก็คงเป็นจุดขายของเมืองนี้ที่ว่ามาแล้วจะต้องไป เยือนให้ได้ เพราะคุณจะได้พบกับบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติกที่เขาล่ำลือกัน
‪#‎ท่องเที่ยวไปทั่วโลก‬ ‪#‎เที่ยวโอตารุ‬ ‪#‎เที่ยวญี่ปุ่น‬ ‪#‎Japan‬




หวังว่าทุกคนคงจะมีหน้าต่างบานใหม่ที่คอยเปิดกว้างให้หลายต่อหลายคน  ได้มองออกไปข้างนอก และพร้อมที่จะกระโดดออกไปสัมผัสกับการท่องเที่ยวในแบบที่ตัวเองชื่นชอบ  ขอบให้สนุกกับการเที่ยวครับ
และสามารถติดตามเรื่องราวดีๆแบบนี้ได้อีกจากทาง  http://reviewchillchill.blogspot.com/
เครดิต : Prompan Kantiya



* หากผิดพลาดประการใดต้องอภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย (เพียงแค่อยากแบ่งปันสิ่งดีๆ)


รีวิวหนังสือที่จะทำให้คุณมีรายได้ "รวยออนไลน์ลุงทุน 0 บาท " ได้เงินจริงจาก......



ดี ค รั บ ....^_^

          วันนี้ผมจะมารีวิว หนังสือดีๆ ที่มีชื่อว่า.... "รวยออนไลน์ลุงทุน 0 บาท "....ที่ทำให้ผมมีรายได้จริง  ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าผมพึ่งเคย ทำรีวิวครั้งแรก (อ่านแต่ของคนอื่น อิอิ)  แต่วันนี้ถือโอกาสทำเองซะเลย  ปกติผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือแนวนี้อยู่แล้ว เมื่อก่อนเวลาไปซื้อหนังสือถ้าปกมีคำว่า "รวย" ผมซื้อหมดแหล่ะ 555+ ตอนนี้หนังสือแนวนี้เต็มโต๊ะเลย เยอะกว่าหนังสือเรียนซะอีก





 
       เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ...หลายคนคงเคยอ่านหนังสือแนวนี้กันมาบ้าง เพราะปัจจุบันหนังสือที่เกี่ยวกับเคล็ดลับการหาเงินจากโลกออนไลน์มีเยอะมาก และเขียนได้ดีๆทั้งนั้น ทำให้หลายคนสองจิสองใจว่าจะหยิบเล่มไหนดี  วันนี้ผมขอรีวิวหนังสือเล่มนี้ "รวยออนไลน์ลุงทุน 0 บาท "  จากที่ได้อ่านและทำตามคำแนะนำในหนังสือซึ่งทำให้ผมมีรายได้จริง




     หนังสือเล่มนี้ปกจะเป็นสีน้ำตาล (ดังภาพ) ขนาดหนังสือไม่ใหญ่มาก สามารถพกพาไปอ่านได้สะดวกและเนื้อหาเขียนได้ดีเข้าใจง่าย  ที่สำคัญภาพประกอบทำให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจและใครที่จะทำตามไม่ต้องกลัวว่าจะผิดพลาด  มีทั้งหมด 160 หน้า





เรามาดูข้างในกันบ้างว่า มีเรื่องอะไรที่น่าสนใจ  ซึ่งมีหลายเรื่องเลยครับ  เช่น รวยด้วย Google Adsense จ่ายจริง 100%   รวยด้วยการออกแบบสินค้า หลากหลายไอเดีย  หรือ รวยด้วยการขายสินค้าให้คนทั่วโลกบนAmazon  (อ่านเพิ่มเติมจากภาพเอาน่ะครับ)














ในหนังสือจริงๆ ภาพสวยมากครับ เนื้อหาเขียนได้ดีมาก  และที่สำคัญทำแล้วได้เงินจริงๆ ไม่ได้หลอกลวงแต่อย่างใดเพราะผมทำแล้วได้เงินจริง  อยู่ที่ว่าจะจริงจังแค่ไหนและขยันทำทำหรือเปล่า (แต่แอบกระซิบให้คนที่สนใจจะทำ รายได้ต่อเดือนของคนเขียนก็ xx,xxx)







อีกอย่างที่ผมชอบของหนังสือเล่มนี้คือ  เขียนขั้นตอนการทำทุกขั้นตอนละเอียดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ และเอาตัวอย่างจากของจริงมาให้ดู ทำให้เราทำตามได้ถูกต้อง 




หลังจากที่โม้กันมานาน เรามารู้จักกับคนเขียนกันบ้างดีกว่าก่อนที่จะขอตัวจบ อิอิ
ผู้เขียน คือ คุณ จรัล ยศตรีสรณ์ หรือคุณเอก ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป บริษัท ลักกี้ โคลเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ดูแลเว็บไซต์โน๊ตบุ๊คอันดับหนึ่งของไทย


ขอบคุณทุกคนมากที่สละเวลามาอ่าน  ขอให้รวยๆกันทุกคนนะคราบบบบบบ ^^
สามารถติดตามการรีวิวดีๆ แบบนี้ได้ที่ http://reviewchillchill.blogspot.com/










ความเป็นมา เมื่อปี 201ที่เริ่มก้าวเข้ามาสู้ธุระกิจการเกษตรอย่างจริงจัง ด้วยการทำไร่กระเจี๊ยบแดงที่ประเทศลาว และได้ขยายฐานการผลิตเข...